ประเพณ๊ดำหัวปีใหม่

ประเพณีตานข้าวใหม่

ประเพณีตานก๋วยสลาก

ประเพณียี่เป็ง

ประเพณีปอยหลวง

 

 

 

ประเพณีเข้ารุกมูล หรือ โสสานกรรม

ในล้านนาไทยมีประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งพระสงฆ์และศัทราประชาชนได้ร่วมกันจัดทำในระหว่าง
เดือน 3-4-5 เหนือ คือช่วงเดือนทางสุริยคติ ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ นิยมให้พระสงฆ์ตาม
วัดต่าง ๆ ออกไปเข้าโสสาน หรือเข้ารุกขมูล หรือเข้าโสสานกรรมในป่าช้า  กิจกรรมเหล่านี้ทำขึ้นจน
เป็น ประเพณ ีสืบต่อกัน มาจน ถึง ปัจจุบัน โสสาน คือ สุสาน หรือ ป่าช้า ที่ฝัง หรือ เผาศพของชาว
ล้านนาไทยมีอยู่ 2 ประเภท คือ  ป่าช้าสำหรับใช้เผา และ ป่าช้าสำหรับใช้ฝัง ป่าช้าสำหรับเผา จะทำ
เชิงตะกอนก่อด้วยอิฐถือปูนไว้ เพื่อนำศพขึ้นเผา บางแห่งทำเป็นเมรุอย่างดี  สิ้นค้าใช้จ่ายแต่ละแห่ง
หลายแสนบาททีเดียว ป่าช้าสำหรับ ฝังนั้น  แต่ โบราณมาคน ใน ภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวลาตายนิยมนำศพไปฝังที่ป่าช้าเป็นส่วนมาก บางกรณีก็มีการนำเอาข้าวของเครื่อง ใช้ส่วนตัวไปฝัง
ด้วย เช่นศพของชาวกะเหรี่ยงชาวลัวะ เป็นต้นเรามักจะขุดพบเสมอที่มีโครงกระดูกและอุปกรณ์เครื่อง
ใช้ของ คนตายต่อมาเราได้รับเอาพุทธศาสนาประเพณีวัฒนธรรมจากอินเดียและลังกาเข้ามาประพฤติ
ปฎิบัติกัน ในอินเดียและลังกา นิยมเผาบนเชิงตะกอน  เราได้นับถือคตินั้น  จึงละจากการฝังดินมาทำ
พิธีเผากัน เป็นส่วนมากแต่ คนไทยบางแห่งยังแบ่งเกณฑ์อายุของคนตายไว้ว่า อายุต่ำกว่า 20 ลงมา
จนถึงเด็ก  เมื่อตายลงญาติจะนำไปฝังไว้ใน ป่าช้า ด้านหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านจะแบ่งเขตไว้เป็นป่าช้าฝัง  
อีกส่วนหนึ่งเป็นป่าช้าเผาคือบริเวณที้เป็นเชิงตะกอนเผาศพคำว่าโสสานหรือสุสานเป็นคำในภาษาบาลี
ชาวบ้านส่วนมากมักจะเรียก ป่าช้าบ้าง ป้าเฮี่ยว บ้าง สุสานบ้าง แล้ว แต่ความนิยม พระสงฆ์ที่เข้าไป
อยู่ในป่าช้าหรือว่าเข้าสุสาน หรือโสสานนี้ ต้องเข้าไปพักอยู่ ที่โคนไม้ใหญ่ในป่าช้าแต่ละต้นห่างกัน
พอประมาณ จึงเรียกว่า "ไปอยู่รุกขมูล" หรือ "เข้ารุกขมูล" การเข้าโสสารหรือรุกขมูลนี้ พระสงฆ์ต้อง
ถือปฏิบัติในธุดงควัตรอย่างเคร่งครัด  จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อยู่กรรม"คือปฎิบัติจริงจังไม่ยอมเดือน
ทางไปไหน ชาวบ้านพูกกันว่า "ธุเจ้าเข้ากรรม"